วิธีสร้างลูกให้เป็นเด็กมั่นใจในตัวเอง

วิธีสร้างลูกให้เป็นเด็กมั่นใจในตัวเอง

เด็ก

การมี “ความมั่นใจในตัวเอง” จะทำให้เด็กเชื่อว่า “ฉันทำได้” กล้าคิด กล้าทำ กล้าเรียนรู้ ไม่กลัวหรือไหวหวั่นง่าย เด็กจะเกิดความมั่นใจได้

สิ่งสำคัญที่สุดคือ พ่อแม่ต้องปลูกฝังและช่วยลูกสร้างความมั่นใจอย่างค่อยเป็นค่อยไปและต่อเนื่อง กำลังใจและการอยู่เคียงข้างลูกเสมอจะทำให้เขามีความกล้าและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่กลัวความผิดพลาด ล้มเหลว การพัฒนาความมั่นใจในตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตของลูกน้อย ลูกควรเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องรู้ว่าจะรับมืออย่างไรหากผิดพลาด ล้มเหลว พ่อแม่ช่วยสร้างลูกให้เป็นเด็กที่มั่นใจในตัวเองได้ดังนี้

  1. แสดงความรักต่อลูก ให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่รักลูกไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พื้นฐานสำคัญที่สุดคือ แม่ที่คอยอยู่เคียงข้าง สร้างความผูกพันและไว้วางใจให้เกิดขึ้นในใจของลูก ทำให้ลูกไว้วางใจว่า ตนจะปลอดภัยเมื่ออยู่ในความดูแลของแม่ ทำให้ลูกกล้าเรียนรู้สิ่งใหม่ ไม่กลัวที่จะล้มเหลวหรือผิดพลาด
  2. ปล่อยให้ลูกได้ลองผิดลองถูกบ้าง ด้วยประสบการณ์ของตัวเองจากความเสี่ยงเล็กๆ น้อยๆ เช่น เห็นลูกเทน้ำใส่แก้ว แม่รู้ว่าจะต้องหกแน่นอน แต่ก็เปิดโอกาสให้ลูกได้ลอง ไม่เข้าไปห้าม หรือเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ผลที่จะเกิดขึ้น ฝึกแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และปรับปรุงแก้ไข ทำให้ดีขึ้นในครั้งถัดไป
  3. ให้ลูกได้ตัดสินใจเลือกเอง เขาจะรู้สึกเห็นความสำคัญของตัวเองมากขึ้น เช่น ปล่อยให้ลูกเลือกชุดที่จะสวมใส่เอง แม้พ่อแม่อาจคิดว่าไม่เข้ากัน แต่ถ้าลูกเลือกแล้วและมั่นใจที่จะใส่ พ่อแม่ก็ควรเคารพการตัดสินใจของลูก
  4. ส่งเสริมให้ลูกได้ทำสิ่งที่สนใจ เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ มากกว่าทำเพราะถูกพ่อแม่บังคับหรือกดดันให้ต้องทำ
  5. ชื่นชมในความพยายาม ให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่ภูมิใจในความพยายามของเขา มากกว่าคำนึงถึงผลลัพธ์หรือความสำเร็จ จะช่วยให้ลูกเห็นคุณค่าของงานที่ตัวเองทำ และอยากทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
  6. อ่านนิทานก่อนนอนให้ลูกฟัง เป็นเครื่องมือง่าย ๆ ช่วยสอนเด็ก โดยเลือกนิทานเด็ก นิทานกล่อมเด็ก หรือหนังสือเด็กที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปลูกฝังความมั่นใจในตัวเอง อ่านนิทานก่อนนอนทำง่ายและทำได้ทันที ทุกบ้าน ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 15 นาที เด็กวัย 1-6 ปีจะชอบให้พ่อแม่เล่านิทานให้ฟังมาก และชอบทำตามตัวละครในนิทานที่เขาชอบ พ่อแม่จึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือช่วยสอนลูกได้ นอกจากช่วยสร้างความมั่นใจในตัวเองแล้ว ยังเป็นนิทาน EF ช่วยพัฒนาทักษะสมองที่ดี และการอ่านนิทานช่วงก่อนนอน เป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะพ่อแม่ไม่ยุ่งกับงานแล้ว ลูกก็เล่นใช้แรงมาทั้งวันแล้ว บรรยากาศเงียบ สงบ เหมาะมากที่จะอ่านหนังสือ กำหนดเวลาไว้เลย เช่น 2 ทุ่มของทุกวัน ทำทุกวันจะช่วยฝึกวินัยการนอนให้ลูกไปในตัวด้วย

อัพเดทเรื่องเด็ก มาใหม่ แนะนำข่าวเพิ่มเติม :  วันทารกเกิดก่อนกำหนดโลก : กอดลูกแบบเนื้อแนบเนื้อเหมือนแม่จิงโจ้ เพิ่มโอกาสรอดชีวิตของทารกคลอดก่อนกำหนด

วันทารกเกิดก่อนกำหนดโลก : กอดลูกแบบเนื้อแนบเนื้อเหมือนแม่จิงโจ้ เพิ่มโอกาสรอดชีวิตของทารกคลอดก่อนกำหนด

วันทารกเกิดก่อนกำหนดโลก : กอดลูกแบบเนื้อแนบเนื้อเหมือนแม่จิงโจ้ เพิ่มโอกาสรอดชีวิตของทารกคลอดก่อนกำหนด

เด็ก

โอโจมา เอโคมุน คุณแม่ชาวไนจีเรีย ได้ให้กำเนิดลูกคนแรกของเธอ หลังจากตั้งครรภ์นาน 31สัปดาห์เท่านั้น

ลูกชายของเธอ ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 700 กรัม ถูกนำตัวเข้าตู้อบทารกแรกเกิด หลังจากที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1 กิโลกรัม บรรดาแพทย์ที่ศูนย์แม่และเด็กอามูโว โอโดฟิน ในเมืองลากอสของไนจีเรีย ได้ห่อตัวทารกมาติดไว้ที่อกของแม่ ผิวหนังของแม่และลูกได้สัมผัสกันโดยตรงวิธีการง่าย ๆ เช่นนี้ แต่ใช้ได้ผลเป็นอย่างดี รู้จักกันในชื่อว่า “การดูแลลูกแบบจิงโจ้” “อยู่ตรงนั้น ลูกปลอดภัยดี” เอโคมุน คุณแม่วัย 26 ปี กล่าวว่า “ฉันรู้สึกดีกับไออุ่นระหว่างตัวลูกและตัวฉัน”

ดีกว่าตู้อบ

วิธีการนี้ซึ่งกุมารแพทย์ 2 คนได้นำมาใช้ครั้งแรกในปี 1978 ที่แผนกสูติกรรมของโรงพยาบาลซาน ฮวน เดอ ดิออส (San Juan de Dios Hospital) ในกรุงโบโกตาของโคลอมเบีย ปัจจุบันได้รับการยอมรับแล้วจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization–WHO) ซึ่งเป็นองค์กรของสหประชาชาติ

การดูแลลูกแบบจิงโจ้ อาจเป็นประโยชน์อย่างมากในพื้นที่ที่ขาดแคลนไฟฟ้าในการให้พลังงานแก่ตู้อบทารกแรกคลอด

ข้อแนะนำก่อนหน้านี้ให้ใช้ตู้อบ

องค์การอนามัยโลกระบุว่า ข้อแนะนำใหม่มีความสำคัญต่อพื้นที่ที่ไม่มี (หรือไม่สามารถพึ่งพา) ไฟฟ้าในการให้พลังงานแก่ตู้อบได้ การวิจัยใหม่เผยให้เห็นว่า การเริ่มใช้วิธีการที่เรียกว่า “การดูแลลูกแบบจิงโจ้” และการส่งเสริมให้มีการให้นมแม่แก่ลูกทันที แทนที่จะรอให้ทารกมีอาการทรงตัวก่อน อาจช่วยชีวิตทารกได้มากถึง 150,000 คนต่อปี